594 จำนวนผู้เข้าชม |
1.หน้าจอ DYNAMIC AMOLED 2X ปรับรีเฟรชเรทอัตโนมัติ ทั้งด้านในด้านนอก
Galaxy Z Fold 3 เป็นมือถือที่ได้รับการพัฒนามาเยอะมาก ๆ จากรุ่นแรกที่ให้ความสำคัญเฉพาะหน้าจอพับด้านใน จนทำให้หน้าจอด้านนอกเล็กจนใช้งานไม่ถนัด พอถัดมาอีกรุ่นก็ได้หน้าจอนอกที่ใหญ่ขึ้นมาแล้ว แต่ดันมีรีเฟรชเรทแค่ 60Hz ในขณะที่จอพับด้านในเป็น Dynamic AMOLED 2x รีเฟรชเรท 120Hz พอมารุ่นล่าสุด คราวนี้หน้าจอด้านในด้านนอกจัดมาให้แบบเต็ม ๆ ด้วยพาเนล Dynamic AMOLED 2x รีเฟรชเรท 120Hz ทั้งคู่ ทำให้หน้าจอมีความลื่นไหลไม่ว่าจะตอนพับหรือตอนกางออก
2.หน้าจอพับใช้ ULTRA THIN GLASS ที่ทนทานมากขึ้น
จุดอ่อนของมือถือจอพับทั้งหลายก็คือหน้าจอที่เป็นรอยได้ง่ายนั่นเอง เนื่องจากมันต้องมีความยืดหยุ่นมากพอที่จะพับได้โดยไม่เกิดอาการร้าวหรือแตก แต่พอมีความยืดหยุ่นมากพอแล้วพื้นผิวของหน้าจอก็จะไม่แข็งพอที่จะทนทานกับการขีดข่วนได้ จะติดฟิล์มก็พิลึก เพราะต้องติดแบบ 2 ฝั่งแยกกันเว้นตรงช่วงที่เป็นรอยพับเอาไว้ เวลาใช้งานจริงลากนิ้วไปมาแล้วจะสะดุดกับขอบฟิล์ม ทำให้การใช้ฟิล์มกันรอยไม่ค่อยเป็นที่นิยมซักเท่าไหร่สำหรับมือถือจอพับ
แต่สำหรับหน้าจอของ Galaxy Z Fold 3 ที่ใช้กระจก Ultra Thin Glass แบบใหม่ จะมีทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรงทนทานมากกว่าหน้าจอรุนก่อนถึง 80% ซึ่งนอกจากมันจะทนต่อการขีดข่วนจากการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่าเดิมแล้ว มันยังมีความแข็งแรงมากพอที่จะใช้งานกับปากกา S Pen ได้โดยที่ไม่ทำให้หน้าจอเป็นรอยเวลาขีด ๆ เขียน ๆ อีกด้วย
3.รองรับปากกา S PEN
หนึ่งในฟีเจอร์ที่แฟน ๆ เรียกร้องเข้ามามากนั่นก็คือการรองรับปากกา S Pen เพราะว่าหน้าจอใหญ่ ๆ ของ Galaxy Z Fold 3 เป็นอะไรที่เหมาะมากกับการจดโน้ตต่าง ๆ หรือจะใช้วาดรูปก็สบาย ๆ ไม่เล็กไปไม่ใหญ่ไปพอ ๆ กับสมุดโน้ตเล่มนึง
4.สเปคแรงระดับไฮเอนด์
จะใช้งานหลายแอปพร้อมกัน, สลับแอปไปมา, ดูวิดีโอความละเอียดสูง 4K 60fps หรือจะเล่นเกมกราฟิก 3D โหด ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะ Galaxy Z Fold 3 ใช้ชิปตัวแรงอย่าง Snapdragon 888 พร้อม RAM ขนาด 12GB และความจุในตัวแบบ UFS 3.1 เรียกว่าจัดเต็มจนสามารถใช้งานในปัจจุบันได้ทุกอย่างแบบไม่มีสะดุด
5.กล้องเซลฟี่ใต้จอ
Galaxy Z Fold 3 เป็นมือถือจอพับรุ่นแรกของโลกที่มากับเทคโนโลยี Under Display Camera หรือกล้องใต้หน้าจอ ซึ่งเวลาใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเล่นเน็ต, ดูหนัง, เล่นเกม ฯลฯ เราจะไม่เห็นรูกล้องโผล่มาให้เกะกะสายตาเหมือนมือถือทั่วไป
6.ถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลัง
กล้องหน้าของ Galaxy Z Fold 3 มีมาให้ถึง 2 ตัว คือกล้องความละเอียด 4MP ที่ฝังไว้ใต้หน้าจอด้านใน และกล้องความละเอียด 10MP ที่อยู่ตรงหน้าจอด้านนอก แต่ถ้าใครอยากจะเซลฟี่ด้วยกล้องที่คุณภาพดีกว่า ก็สามารถใช้กล้องหลังทั้ง 3 ตัว ความละเอียด 12MP ถ่ายเซลฟี่เอาก็ยังได้ แค่กางหน้าจอออกให้สุดและหันกล้องหลังมาที่หน้าของเรา จากนั้นก็เปิดจอด้านนอกเพื่อเล็งมุมให้เป๊ะ แล้วถ่ายได้เลย…จะหน้าชัดหลังเบลอก็เนียน จะถ่ายมุมกว้างก็สบาย หรือจะถ่ายในที่แสงน้อยก็ไม่มีปัญหา
7.ใช้งานได้ 3 แอปพร้อมกันบนหน้าจอเดียว
ด้วยหน้าจอด้านในที่มีขนาดถึง 7.6 นิ้ว บวกกับสเปคที่แรงขั้นเทพ และ UI ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้ Galaxy Z Fold 3 เปิดแอปใช้งานพร้อม ๆ กันบนหน้าจอได้ถึง 3 แอป แบบไม่มีอาการงอแงใด ๆ ไม่ว่าจะเปิด YouTube ดูไปด้วยในระหว่างที่กำลังจดโน้ต พร้อมกับเปิดแอปเครื่องคิดเลขไปพร้อม ๆ กันก็ทำได้ โดยแต่ละแอปสามารถย้ายตำแหน่งหรือปรับขนาดหน้าต่างได้ตามต้องการ
8.ลากภาพ หรือก๊อปตัวอักษรไปมาระหว่างแอป MICROSOFT OFFICE
จะทำงานเอกสารระหว่างทางก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะ Galaxy Z Fold 3 รองรับการใช้งานแอป Microsoft Office พร้อมกันบนหน้าจอเดียวกันได้ ทำให้เราเปิดไฟล์ Word คู่กันแล้วลากภาพจากไฟล์นึงมาใส่อีกไฟล์นึง หรือจะก๊อปตัวหนังสือมาแปะที่ไฟล์อีกฝั่งได้เหมือนกับกำลังทำงานอยู่บน PC ยังไงยังงั้นเลย
9.หน้าจอพลิกแพลงการใช้งานหลากหลาย
หน้าจอของ Galaxy Z Fold 3 ไม่ได้แค่กางสุดและพับปิดสนิทได้เท่านั้น แต่มันสามารถเปิดคาเอาไว้ได้หลายองศา ทำให้มันพลิกแพลงการใช้งานได้มากมาย ไม่วาจะกางจอออกไปที่ 115° เพื่อใช้งานแบบโน้ตบุ๊ค, เปิดจอ 90° เพื่อใช้ถ่ายรูปโดยไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้อง หรือจะกางแค่ 75° เพื่อดูหนังจากจอด้านนอกก็ได้
10.ทนทาน ทนน้ำ IPX8
อีกหนึ่งจุดอ่อนของมือถือจอพับส่วนมากก็คือเรื่องของน้ำนั่นเอง เนื่องจากมือถือจอพับจะมีกลไกบริเวณบานพับที่มักจะมีช่องว่างให้ฝุ่นหรือน้ำเข้าไปได้ บางทีแค่เจอละอองน้ำ ฝนตก หรือน้ำหกใส่ก็ทำเอาเครื่องมีปัญหาได้เลย…แต่ไม่ใช่กับ Galaxy Z Fold 3 หรอกนะ เพราะรุ่นนี้ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ โดยบริเวณตัวเครื่องซ้าย-ขวาจะถูกซีลโดยเทปกาวที่กันน้ำได้เหมือนกับมือถือทั่วไป
แต่ส่วนที่ยากและซับซ้อนขึ้นก็คือบริเวณบานพับที่ถือเป็นจุดอ่อนที่สุดของมือถือพับได้ เพราะมันจะต้องมีช่องต่าง ๆ ที่ต้องเว้นเอาไว้สำหรับการขยับเขยื้อนของกลไกทำให้น้ำมักจะเข้าไปทางนั้นได้ ซึ่งบานพับของ Galaxy Z Fold 3 จะไม่เหมือนใครเพราะใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนเคลือบด้วยจารบีเพื่อป้องกันสนิม และใช้ยางที่เคลือบด้วยสาร CIPG เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้เข้าไปในช่องว่างระหว่างแผงวงจรในเครื่องอีกทีนึง
มือถือจอพับรุ่นนี้ก็เลยหมดปัญหาเรื่องฝนตก น้ำสาด น้ำหกใส่ไปได้เลย เพราะมันทนน้ำได้ตามมาตรฐาน IPX8 เลยทีเดียว (ตามมาตรฐานคือทนน้ำจืดได้ลึกราว ๆ 1 เมตรครึ่ง แต่ไม่แนะนำให้เอาเครื่องไปจุ่มน้ำหรือใช้งานในน้ำนะครับ) อีกทั้งมาตรฐาน IPX8 จะครอบคลุมแค่การ “ทนน้ำ” นะคะ ส่วนฝุ่นนี่ไม่ได้ถูกนำมาทดสอบด้วย ไม่เหมือนกับพวกมาตรฐาน IP68 อะไรพวกนี้
บอกได้เลยว่า Galaxy Z Fold 3 เป็นมือถือจอพับที่ได้รับการพัฒนามาจากรุ่นก่อน ๆ จนแทบจะอุดข้อด้อยหลาย ๆ อย่างของมือถือจอพับได้แล้ว
ใครสนใจ ติดตามทางร้าน Galaxymobile ได้เลยค่ะ
ราคาพิเศษสุดๆแน่นอน
